Free Shipping on all orders. ไวน์ ชั้น ดี แก้ว ไวน์ ต่างๆ ไวน์แท้ราคาดี ไวน์แดง
ไวน์แดง
เป็นไวน์ประเภทที่เหมาะกับอาหารประเภทที่ทำจากเนื้อสัตว์ใหญ่ และเนื้อแดง เพราะความฝาดของไวน์แดงจะไปตัดความมันที่ปนในเนื้อสัตว์ไม่ให้รู้สึกเลี่ยน แต่ไม่เหมาะกับอาหารรสเผ็ด เพราะความฝาดของไวน์จะเปลี่ยนให้เป็นรสขม และไวน์แดงไม่เข้ากับอาหารทะเล เพราะความฝาดของไวน์แดงจะดันกลิ่นคาวที่ออกมา ไวน์ดื่มให้ดีมีประโยชน์
ไวน์ขาว
ตรงกันข้ามกับไวน์แดง ไวน์ขาวเข้ากันได้ดีกับอาหารรสชาติเผ็ด เปรี้ยว และอาหารทะเล ไวน์ขาวจะเสิร์ฟในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าไวน์แดง ความเย็นและรสเปรี้ยวของไวน์ขาว สร้างความสดชื่นให้กับการดื่มช่วยตัดรสเผ็ดและกลิ่นคาวของอาหารทะเลได้ อาหารที่มักจะนำมาจับคู่รับประทานกับไวน์ขาว ได้แก่ (Soft Cheese) ขนมปัง เนื้อปลา ไก่ สลัด
ไวน์ ชนิด ต่างๆ
การดื่มไวน์แม้จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง แต่หากดื่มในปริมาณที่มากเกินไปจะก่อให้เกิดโทษได้ ดังนั้นเราจึงควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะถึงจะเกิดประโยชน์ ปริมาณที่แนะนําคือ ผู้ชายควรดื่มไม่เกิน 2 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 250 – 300 มิลลิลิตร ผู้หญิงไม่เกิน 1 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 125 – 150 มิลลิลิตร โดยปริมาณบริโภคต่อแก้วนั้นจะขึ้นอยู่กับปริมาณแอลกอฮอล์ ยิ่งแอลกอฮอล์สูง ปริมาณการดื่มก็ควรจะลดลง ไวน์ดื่มให้ดีมีประโยชน์
สมาคมโรคหัวใจในประเทศอังกฤษระบุว่า การดื่มไวน์ในปริมาณที่พอเหมาะนั้นดีต่อสุขภาพ จากการศึกษาพบว่าการดื่มไวน์วันละ 1-2 แก้ว ช่วยป้องกันอาการหัวใจวายได้ แต่ในทางตรงข้ามการดื่มไวน์ในปริมาณมากๆ กลับเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือดได้ ไวน์ดื่มให้ดีมีประโยชน์
สารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งซึ่งพบได้ในองุ่น ราสเบอร์รี ถั่วลิสง และพืชอื่นๆ มีหลักฐานพบว่า เรสเวราทรอลนั้นสามารถช่วยลดอนุมูลอิสระและลดอัตราการเกิดมะเร็งในสัตว์ทดลอง รวมทั้งลดการเจริญเติบโตของมะเร็งในถาดเพาะเชื้อได้ อีกทั้งยังช่วยลดสารเอ็นเอฟ แคปปา บี (NF Kappa B) ซึ่งเป็นโปรตีนที่สร้างโดยระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกกระตุ้นอีกด้วย จึงสรุปได้ว่าการดื่มไวน์ในปริมาณที่เหมาะสมสามารถต้านโรคมะเร็งได้ ไวน์ดื่มให้ดีมีประโยชน์
สถาบันการแพทย์ Erasmus Medical Center ประเทศเนเธอร์แลนด์ เผยแพร่งานวิจัยภายใต้หัวข้อ Alcohol Consumption and the Risk of Dementia : The Rotterdam Study พบว่าการดื่มไวน์ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และพาร์คินสันได้ จากงานวิจัยร่วมของสถาบันวิทยาศาสตร์โภชนาการและอาหารในสเปน อังกฤษ และสหรัฐฯ พบว่าการดื่มไวน์วันละ 1 แก้ว ร่างกายจะได้รับสารเรสเวอราทรอล ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ประสาทไม่ให้เสื่อมหรือถูกทำลาย ลดความเสี่ยงการเป็นอัลไซเมอร์ ไวน์ดื่มให้ดีมีประโยชน์
ส่วนประกอบที่มีอยู่ในไวน์ช่วยป้องกันอาการของไข้หวัดได้ จากผลการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย 5 แห่งในยุโรปที่ทำการทดลองในอาสาสมัครกว่า 4,000 คน ในระยะเวลา 1 ปี พบว่าผู้ที่ดื่มไวน์ โดยเฉพาะไวน์แดงประมาณ 2 แก้วต่อวัน จะมีโอกาสเป็นไข้หวัดได้น้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่มไวน์ถึงร้อยละ 44 เพียงดื่มไวน์ 1 แก้วต่อวันก็สามารถสร้างภูมิคุ้มกันโรคหวัดได้แล้ว อีกทั้งการวิจัยของศูนย์โรคหวัดแห่งมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ (Cardiff University) ประเทศเวลส์ มีรายงานว่า คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ หรือสารแอนตี้ออกซิแดนท์ในไวน์อาจสามารถป้องกันการเกิดโรคหวัดได้
ประโยชน์ของไวน์ โดยเฉพาะไวน์แดงที่มีแทนนิน (Tannin) หรือความฝาด มีสารบางชนิดที่ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ซึ่งคอเลสเตอรอลเมื่ออยู่ในเส้นเลือดนานๆ จะทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงหัวใจได้ไม่สะดวก โดยเฉพาะกับคนที่มีน้ำหนักมาก
จากรายงานของวารสาร American Journal of Agriculture and Food Industry ได้กล่าวว่านักวิจัยจากมหาวิทยาลัยปาเวีย ประเทศอิตาลี เปิดเผยผลของการดื่มไวน์แดง&ไวน์ขาววันละ 1 แก้วเป็นประจำ จะช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดฟันผุ และโรคเกี่ยวกับเหงือกได้ เพราะไวน์มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดฟันผุ ส่วนผสมของไวน์ยังช่วยสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียชื่อ Streptococcus Pyogenes ที่อาศัยอยู่ในช่องทางเดินหายใจที่ก่อให้เกิดอาการเจ็บคอและมีอาการเป็นไข้ได้อีกด้วย
‘ไวน์โลกเก่า’ กับ ‘ไวน์โลกใหม่’ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปีที่ผลิตหรือความยาวนานของการบ่มแต่อย่างใด แต่โลกเก่าโลกใหม่ที่ว่า หมายถึงแหล่งที่องุ่นและไวน์ขวดนั้นๆ ผลิตขึ้นต่างหาก
ไวน์โลกเก่า ให้ความรู้สึกคลาสสิก และเป็นเสมือนกับมรดกทางรสชาติชิ้นหนึ่งที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น เนื่องด้วยกระบวนการผลิตที่มีขั้นตอนอย่างเป็นแบบแผนและผู้ผลิตจะต้องทำตามสูตรเหล่านั้นอย่างเคร่งครัด
ไวน์โลกใหม่ คือไวน์ที่ผลิตจากแหล่งที่ไม่ใช่แหล่งดั้งเดิมของการทำไวน์ แต่เป็นการรับเอากรรมวิธีการทำไวน์จากแหล่งผลิตในโลกเก่าไปปรับปรุง และพัฒนากรรมวิธีการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยเหลือเพื่อให้ได้ไวน์ตามความต้องการของตลาด
Old World Wine นั้นถูกจำแนกความเก่าจากกระบวนการผลิตที่คงมาตรฐานมาร่วม 5 ทศวรรษจากเหล่าประเทศที่มีวิทยาการก้าวหน้าในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 16 อันถูกระบุอยู่ในแผนที่โลกโบราณ ซึ่งหมายความถึงแผ่นดินโลกเก่าในแถบยุโรปและตะวันออกกลาง หรือแหล่งกำเนิดของไวน์นั่นเอง เช่น ประเทศฝรั่งเศส อิตาลี สเปน โปรตุเกส กรีซ และเยอรมัน ที่มีประวัติศาสตร์การทำไวน์มาอย่างยาวนานนับพันปี
New World Wine คือไวน์ที่ถูกผลิตขึ้นจากแหล่งที่ไม่ใช่แหล่งดั้งเดิมของการทำไวน์ เป็นการรับเอากรรมวิธีการทำไวน์จากแหล่งผลิตในโลกเก่าไปปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และพัฒนากรรมวิธีต่างๆ ให้เป็นไปในรูปแบบของตัวเองโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ นำมาใช้ในการผลิตไวน์ ซึ่งไวน์โลกใหม่ก็จะเกิดขึ้นในโลกแผ่นดินใหม่ที่เพิ่งถูกค้นพบอย่าง ประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา หรือประเทศในแถบทวีปอเมริกาใต้ ชิลิ อาร์เจนติน่า เปรู
We use cookies to analyze website traffic and optimize your website experience. By accepting our use of cookies, your data will be aggregated with all other user data.